top of page

แบบฝึกหัด บนคันนา


บ้านไม้เก่าๆ สองชั้น ฝาบ้านถูกตีตามแนวขวาง หน้าต่างถูกเปิดออก เอาตะขอเกี่ยวไว้ทั้งสองข้างอ้ารับลมยามเช้า หยดยกสลักไม้ขึ้น เพื่อเปิดประตูบ้านชั้นล่างให้กว้าง และโยกพับผูกเชือกไว้ที่สองมุมประตู

มองออกมาจากบ้านมีต้นมะปรางขนาดใหญ่มาก สูงพอๆกับหลังคาบ้าน ร่มเงากว้างขวาง เพียงพอให้หลานๆ นับสิบคนวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

พ่อ!!! หยดเรียกพ่อ มองเห็นหลังพ่อเลาๆ พลันหยิบรองเท้าหนีบเก่าๆ ใส่แล้ววิ่งตามหลังพ่อไป พร้อมกับลูกพี่ลูกน้องอีกสองสามคน

พอถึงที่นา เราก็สลัดรองเท้าทิ้งไว้ วิ่งเท้าเปล่าบนคันนา จากที่วิ่งตามหลัง ก็แข่งกันวิ่งนำทางพ่อ ไปดูโพงพาง (อวนขนาดใหญ่) ที่ดักจับปลาอยู่ตรงฝายน้ำล้น แกะเชือกที่ผูกติดกับกิ่งไม้ริมคลอง แล้วก็สาวเชือกไปหาปลายอีกด้านที่ผูกติดกับโพงพาง เราเอาปลาเทใส่ถัง แล้วก็โยนโพงพางให้ลอยน้ำไปตามเดิม

เท้าที่ได้ส้มผัสกับดินเหนียว ดินโคลนบนคันนา ลมพัดผ่านรวงข้าว กลิ่นหอมรางๆ เป็นความรู้สึกที่เบาสบายที่สุด ขากลับแวะเก็บคันเบ็ดที่ปักไว้ริมนาและก็ลุ้นว่าปลาช่อนนาจะมาติดเบ็ดมั้ย และตามด้วยเสียงเฮ!!! มีปลาติดเบ็ดจริงๆ ด้วย พวกเราได้ ผัก หญ้า ปลา หอย กลับกันมาเต็มไม้เต็มมือเสมอ

คุณย่า..รอรับปลาอยู่ที่บ้าน พร้อมมีดเขียง แล้วก็ไม้ไผ่เหลาเป็นอันเล็กบางๆ คล้ายๆไม้เสียบลูกชิ้นสมัยนี้ เอามาเสียบปลาตัวเล็กๆให้เรียงรายสลับหัวสลับหางกันไปเป็นระเบียบ แล้วก็ย่างบนเตาถ่านใหญ่ เอาใบกล้วยมาปิดเอาไว้ไม่ให้ความร้อนออก ย่าย่างปลาเก็บเอาไว้กินเวลาหน้าแล้ง บ้างก็แจกให้เพื่อนบ้าน แขกไปใครมาต่างก็ได้รับปลาแห้งของย่าติดไม้ติดมือตลอด

พอใกล้เที่ยง..ได้ยินเสียง แกร๊กๆๆๆ ดังมาจากเตา หลานๆ วิ่งชิงทางเรียงหน้ากันมา เป็นเสียงช้อนขูดกับกระทะ พร้อมกินไหม้อ่อนๆ ย่ากำลังขูด ดังข้าว (ข้าวตัง) ที่ติดอยู่ก้นกระทะ บางคนใจร้อนหยิบข้าวร้อนๆในกระทะ ยังไม่ทันที่ย่าจะเยาะซีอิ้วขาวด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้กิน.. หยดเองนี่แหละ มือพองเลยทีเดียว555

ตอนบ่าย เรามานั่งเล่นโคนต้นมะปราง ลมโกรกสบาย ร่มทั้งวัน งานอดิเรกของย่าก็คือกวาดใบมะปราง ขนาดเท่าๆ ฝ่ามือ กองไว้เป็นกองๆไม่เว้นวัน เสร็จจากกวาดลานบ้าน ย่าก็ชวนพวกเรามานั่งล้อมวง แล้วก็สอนหลานๆ สานปลาตะเพียน จากใบมะพร้าว คล้ายเป็นปลาช่อนบ้าง ปลาซิวบ้าง ก็ขำกันไป .. .. หยดว่าในชนบท ทุกภาคของไทย ก็อารมณ์เช่นนี้คล้ายๆกัน นั่นเป็นความทรงจำสีจางๆ ในวัยเด็กของหยด แม้ว่าภาพจะค่อยๆ เลือนลางไปตามกาลเวลา แต่ความรู้สึกยังอยู่เต็มหัวใจ (อ้าวเฮ้ย..น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว 😭) เป็นวัยเด็กที่มีความซนปนสนุก และมีความสุขที่สุด

หยดเรียนรู้ เติบโต ท่ามกลางธรรมชาติ บนวิถีที่เรียบง่าย..ธรรมชาติที่เราไม่ต้องเสแสร้ง แล้วหยดก็เก็บความฝันที่ว่า สักวันหยดจะมีบ้านริมทุ่งนาให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่นเท้าเปล่า ไว้ลึกสุดของใจ ความฝันมันก็ค่อยเบาบางรางๆลงไป

เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป..เราค่อยๆ ถูกสิ่งต่างๆ มาเคลือบตัวเรา จนอาจสูญเสียความเป็นธรรมชาติ สูญเสียความเป็นตัวเอง สูญเสียวิถีไทย ความสุขก็ค่อยๆ เบาลงๆ อย่างช้าๆ

หยดมองไปที่ลูกๆ สองคนที่กำลังง่วนอยู่กับเทปเล็ต ดูช่องยูทูป ยิ้มให้เน็ตไอดอลที่พวกเขาโปรดปราน เรื่องราวในวัยเด็กที่มีค่าที่สุดของหยด ก็เป็นได้แค่ นิทานก่อนนอนสำหรับลูกๆ เท่านั้น

#ครูหยด #ไร่หยดพิรุฬ

Featured Posts
Recent Posts
bottom of page